กรมหลักทรัพย์ของมลรัฐนอร์ทดาโคตาได้ออกการแจ้งเตือนนักลงทุนเพื่อเตือนประชาชนเกี่ยวกับการหลอกลวงการลงทุนครั้งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ "มูลนิธิการศึกษาการลงทุน" ปลอม แผนการฉ้อโกงเหล่านี้ล่อลวงเหยื่อด้วยสัญญาว่าจะให้ความรู้เรื่องหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล การทดลองและการกู้ยืมที่ "ปราศจากความเสี่ยง" เป้าหมายหลักของนักต้มตุ๋นคือการโน้มน้าวให้บุคคลลงทุนเงินของพวกเขาบนแพลตฟอร์มในขณะที่รับสินเชื่อปลอมพร้อมค่าคอมมิชชั่นที่สูงเกินไป
แผนการฉ้อโกงมักจะเริ่มต้นด้วยโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย นำผู้ใช้ไปยังกลุ่ม WhatsApp ที่ดำเนินการโดยผู้ก่อตั้งและบอทปลอม ผู้ก่อตั้งเสนอหลักสูตรการลงทุนและในที่สุดก็แนะนำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลปลอม นักลงทุนถูกล่อลวงให้ทดสอบบอทปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์โดยใช้โทเค็น "ฟรี" ที่สร้างผลกำไรปลอม ดังนั้นจึงสนับสนุนการลงทุนด้วยเงินจริง
ผู้ให้บริการสินเชื่อปลอมบน Telegram จะเข้ามาโดยเสนอเงินกู้ที่ฝากเข้าตลาดโดยตรง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนพบว่าบัญชีของตนถูกระงับด้วยเหตุผลด้านกฎระเบียบที่ปลอมแปลงในภายหลัง โดยไม่สามารถถอนผลกําไรได้จนกว่าพวกเขาจะชําระคืนเงินกู้หรือค่าคอมมิชชั่นปลอมเหล่านี้ ในที่สุดนักต้มตุ๋นก็ปิดการดําเนินงานและกลับมาใช้ชื่อใหม่โดยกําหนดเป้าหมายไปที่เหยื่อรายใหม่
นักต้มตุ๋นเหล่านี้มักใช้เอกสารของรัฐบาลและเอกสารประกอบวิชาชีพของแท้ รวมถึงการลงทะเบียนกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา พวกเขายังอาจโพสต์บทความออนไลน์และใช้โดเมนเว็บไซต์เก่าเพื่อสร้างซุ้มของความชอบธรรมที่มีมาอย่างยาวนาน
แผนกหลักทรัพย์ของนอร์ทดาโคตาได้เรียกร้องให้บุคคลใช้ความระมัดระวังเมื่อพบโอกาสในการลงทุนที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้รับการส่งเสริมผ่านโซเชียลมีเดีย อีเมล หรือโทรศัพท์
Tim Karsky กรรมาธิการหลักทรัพย์ North Dakota กล่าวว่า "การเพิ่มขึ้นของ 'มูลนิธิการศึกษาการลงทุน' ปลอมเป็นแนวโน้มที่น่ากังวลซึ่งใช้ประโยชน์จากความปรารถนาของนักลงทุนในการลดความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ผันผวน" และเสริมว่า "การหลอกลวงเหล่านี้สร้างขึ้นจากคํามั่นสัญญาเท็จของการรับประกันผลตอบแทนและคําแนะนําการลงทุนอย่างมืออาชีพ เป็นสิ่งสําคัญสําหรับนักลงทุนที่จะต้องระมัดระวังและตั้งคําถามกับข้อเสนอที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่จะแยกจากเงินของพวกเขา"
“อย่าคิดว่า 'รากฐานทางการศึกษา' นั้นน่าเชื่อถือเพียงเพราะมันโปรโมตบนโซเชียลมีเดีย” Karsky เตือน